วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ก.ย. 2566
เมื่อวันที่ 9-13 กันยายน 2566 น.ส. ภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้นำคณะทีมประเทศไทยในอินเดีย ประกอบด้วย กงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ กรุงนิวเดลี ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงนิวเดลี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเยือนรัฐสิกขิม เพื่อแสวงหาโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับรัฐสิกขิม
คณะได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Prem Singh Tamang มุขมนตรีรัฐสิกขิม เข้าร่วมการประชุมกับนาย นาย V.B. Pathak Chief Secretary รัฐสิกขิม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรัฐสิกขิม และได้พบหารือกับผู้แทนภาคเอกชนรัฐสิกขิมในสาขาการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม รวมทั้งได้ศึกษาดูงานการแปรรูปสินค้าเกษตร และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวของรัฐสิกขิม
ฝ่ายสิกขิมได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือกับไทยในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1) การท่องเที่ยว ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้งสองฝ่ายเดินทางระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และฝ่ายสิกขิมประสงค์เรียนรู้จากไทยในด้านการท่องเที่ยวแบบ Wellness โดยในโอกาสนี้ มุขมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง Help Desk ที่ท่าอากาศยานกัลกัตตา เพื่ออำนวยความสะดวกการขอใบอนุญาตเที่ยวสิกขิมให้แก่นักท่องเที่ยวไทย และเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้ทางการสิกขิมดูแลนักท่องเที่ยวไทยในยามฉุกเฉิน 2) เกษตรกรรมและการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร สนใจเรียนรู้ระบบจัดการฟาร์มของไทย เชิญชวนให้ไทยมาลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารจากผลไม้และผัก ซึ่งไทยมีความเป็นเลิศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสิกขิมในการส่งออกผลิตภัณฑ์ 3) การค้า สินค้าไทยเป็นที่นิยมในสิกขิม โดยเฉพาะอาหาร เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น โดยฝ่ายไทยได้เสนอให้สิกขิมจัดคณะผู้แทนทางการค้าไปร่วมงานแสดงสินค้าและพบปะผู้ประกอบการไทย 4) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเยาวชน และความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา 5) ขอรับการสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการจากไทย ได้แก่ การสอนหลักสูตรอาหารไทยในสถาบันด้านการโรงแรม การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและสิ่งทอ และการพัฒนาทักษะแรงงานด้านการท่องเที่ยว
รัฐสิกขิมมีจุดเด่นและมีศักยภาพสำหรับไทยในหลายด้าน โดยเฉพาะการเป็นตลาดท่องเที่ยวและสินค้า โดยเป็นรัฐที่มีรายได้ต่อหัวประชากรสูงสุดเป็นอันดับสองของอินเดีย มีระยะทางใกล้กับไทยและเที่ยวบินเชื่อมต่อไทยระหว่างเมือง Bagdogra-กรุงเทพฯ และมีความคล้ายคลึงกับไทยด้านวัฒนธรรม โดยประชากรมีทัศนคติที่ดีต่อไทยและกว่า 80% เคยเดินทางไปไทยและเป็นผู้เดินทางซ้ำ รวมทั้งเป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ (organic farming) 100% แห่งแรกของโลก และมีนโยบายส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ซึ่งไทยสามารถเรียนรู้จากรัฐสิกขิมได้
รูปภาพประกอบ
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 09:00 - 17:00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
หมายเลขฉุกเฉินสำหรับชาวไทย +๙๑ ๙๕๙๙๓ ๒๑๔๘๔