เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี เดินทางเยือนรัฐทมิฬนาฑูและดินแดนสหภาพปุฑุเจรี

เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี เดินทางเยือนรัฐทมิฬนาฑูและดินแดนสหภาพปุฑุเจรี

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ธ.ค. 2565

| 386 view

เมื่อวันที่ 14 – 18 ธันวาคม 2565 นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้เดินทางไปยังรัฐทมิฬนาฑูและดินแดนสหภาพปุฑุเจรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐของอินเดีย เข้าพบปะรับฟังปัญหาอุปสรรคและศึกษาดูงานบริษัทเอกชนไทยที่ลงทุนอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าพบนาย MK Stalin มุขมนตรีรัฐทมิฬนาฑู โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย – อินเดีย ในทุกมิติ และโดยเฉพาะความใกล้ชิดทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรมกับรัฐทมิฬนาฑูและชาวทมิฬที่มีมาแต่อดีต ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความขอบคุณที่รัฐทมิฬนาฑูให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน ด้วยดีตลอดมา โดยเฉพาะในปี 2565 ซึ่งถือเป็นปีครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – อินเดีย และในส่วนของรัฐทมิฬนาฑู หวังว่าจะมีการริเริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ กับไทย โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการระบบนิเวศน์และป่าไม้ ซึ่งทางรัฐให้ความสนใจและเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไทยเชี่ยวชาญ
2. เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับวิทยาลัยทันตกรรม Saveetha รัฐทมิฬนาฑู โดยบันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นักวิจัย และนิสิตทันตแพทย์ระหว่างกันต่อไป ทั้งนี้ วิทยาลัยทันตกรรม Saveetha เป็นวิทยาลัยด้านทันตกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่หนึ่งของอินเดีย โดยล่าสุด ได้รับการจัดอันดับที่ 1 ในบรรดามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยด้านทันตกรรมในอินเดีย และที่ 18 ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกในด้านทันตกรรมของ QS อีกด้วย
3. เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางพบปะรับฟังปัญหาอุปสรรค และศึกษาดูงานบริษัทเอกชนไทยในพื้นที่เมืองเจนไนอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท CPF India ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้ง มาเป็นเวลากว่า 27 ปี และบริษัท Thai Summit Autoparts ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ให้กับบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ Yamaha และ Royal Enfield
4. ในโอกาสเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปยังดินแดนสหภาพปุฑุเจรี เพื่อศึกษาความเป็นพหุวัฒนธรรมของอินเดีย รวมทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโพ้นทะเล เนื่องจากดินแดนสหภาพปุฑุเจรีเคยตกอยู่ใต้อาณัติของฝรั่งเศสมาจนกระทั่งปี ค.ศ. 1954 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ