ระหว่างวันที่ 5 – 9 กันยายน 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี โดยความร่วมมือกับ Asian Confluence ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมอง ตั้งอยู่ที่เมือง Shilling รัฐเมฆาลัย ได้จัดโครงการผู้ประกอบการรุ่นเยาว์และรุ่นใหม่จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ และ Asian Confluence ได้ร่วมกันคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ 6 คน จากรัฐต่าง ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียในสาขาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการแปรรูปอาหารและสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศไทย ทั้งนี้ โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ระหว่างไทยกับอินเดีย ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเครือข่ายระหว่างกัน นำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจและ/หรือการลงทุนระหว่างกันที่เพิ่มมากขึ้น

ระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ คณะผู้ประกอบการได้มีโอกาสเข้าศึกษาดูงานในอุตสาหกรรมการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าประเภทอาหารและผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดโดยรอบ อาทิ สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา อันได้แก่บริษัท K-Fresh ผู้เพาะปลูก ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน้ำหอม บริษัท DiStar Fresh ผู้ผลิตเทคโนโลยีการทำการเกษตรแบบแนวตั้ง โครงการในพระราชดำริอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ และคาเฟ่อเมซอน โดยจากการศึกษาดูงานดังกล่าว คณะฯ กล่าวว่าได้รับองค์ความรู้หลายประการเกี่ยวกับประเทศไทยและความเชี่ยวชาญในสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทย และหวังที่จะหาลู่ทางเพื่อนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังตลาดอินเดีย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้มีโอกาสพบปะและสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการชั้นนำรุ่นใหม่ของไทย คือกลุ่ม Young Entrepreneur Chamber of Commerce (YEC) ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกลุ่ม YEN-D ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศ ทำให้คณะฯ ได้รับรู้ถึงความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาของภาคเอกชนไทย และได้สัมผัสการต้อนรับขับสู้และความเป็นกันเอง ที่สะท้อนว่าชาวไทยสามารถร่วมมือทางธุรกิจกันได้ด้วยไม่ยาก และพร้อมเป็นคู่ธุรกิจชั้นเลิศ

ตลอดช่วงการดำเนินโครงการ คณะฯ ได้แสดงความชื่นชมประเทศไทยในความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี นวัตกรรม และความเป็นมิตรของชาวไทย และได้ให้คำมั่นว่าเมื่อได้เดินทางกลับไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียแล้ว จะช่วยแสวงหาลู่ทางให้ไทยได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาภูมิภาคต่อไป